ปลัดสธ.
สั่งหน่วยงานในสังกัด ลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นอย่างเคร่งครัด
ป้องกันวิกฤตไฟฟ้า
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
สั่งหน่วยงานในสังกัดทุกแห่ง ลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นอย่างเคร่งครัด
ปฏิบัติต่อเนื่องจนเป็นนิสัย เช่น ให้เปลี่ยนใช้หลอดผอมเบอร์ 5
ลดจำนวนการใช้ลิฟต์ในเวลาไม่เร่งด่วน ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่
25 องศาเซลเซียส การซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่
ต้องเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน พร้อมเตรียมรับมือช่วงวิกฤตพลังงาน 4-12
เมษายน 2556 ทั้งเครื่องปั่นไฟ น้ำมัน
ในระยาวให้หาแหล่งพลังงานทดแทนเช่นพลังงานแสงอาทิตย์
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการการลดการใช้พลังงาน
ตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อรองรับภาวะวิกฤติด้านพลังงานไฟฟ้าในช่วงวันที่ 4
12 เมษายน 2556 ว่า
กระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการควบคุมการใช้ไฟฟ้าและพลังงานของหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศอย่างเคร่งครัด
ทั้งในส่วนของสำนักงานด้านการบริหารและสถานพยาบาลทุกแห่ง
โดยได้ส่งหนังสือเวียนแจ้งกำชับให้ทุกหน่วยงาน
ช่วยกันลดการไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นอย่างจริงจัง
และให้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
จนเคยชินเป็นนิสัย
นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า
มาตรการประหยัดพลังงานที่กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการอยู่ขณะนี้
มี 3 มาตรการ ได้แก่ 1.ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
เปลี่ยนหลอดไฟจำนวน 880 หลอด ภายในอาคาร 1
ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยเปลี่ยนจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ที 8
ซึ่งใช้ทั่วๆไป เป็นหลอดผอมเบอร์ 5 หรือที 5 (T5)
ซึ่งเป็นหลอดชนิดประหยัด
และจะเร่งดำเนินการเปลี่ยนหลอดไฟส่วนที่เหลืออยู่อีกประมาณ 4,200
หลอดให้เป็นหลอดผอมทั้งหมด
2.ลดจำนวนการใช้ลิฟท์ในเวลาที่ไม่เร่งด่วน
โดยให้แต่ละอาคารปิดลิฟท์ 1 ตัว ตั้งแต่เวลา 9.00 น.ถึง 11.00 น.
และในเวลา 13.30 น.ถึง 15.00 น.
และ3.จัดพิมพ์แผ่นพับแจกจ่ายสำนักงานต่างๆ
ขอความร่วมมือในการใช้เครื่องปรับอากาศภายในสำนักงาน
รวมทั้งห้องผู้บริหาร
ตามคำแนะนำของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เช่น
ให้ปรับตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศาเซลเซียส
ให้ดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
ปิดเครื่องปรับอากาศและหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกครั้งเมื่อไม่อยู่ในห้อง
หรือในเวลาพักเที่ยง เป็นต้น
โดยได้มอบหมายให้สำนักโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของกระทรวงสาธารณสุข
ติดตามประเมินผล ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลงให้ได้ร้อยละ 10 ต่อเดือน
โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 4-12 เมษายน 2556
ที่คาดว่าจะมีวิกฤตด้านพลังงาน
ได้กำชับให้สถานบริการทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือ
เช่นเตรียมเครื่องสำรองไฟ เตรียมน้ำมันสำรองให้เพียงพอ
เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อการให้บริการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย
สำหรับการประหยัดพลังงานในระยะยาวนั้น
กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าลงอย่างต่อเนื่อง
เช่น
หากมีการจัดซื้ออุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ทดแทนเครื่องเก่าที่ชำรุดของสำนักงาน
จะต้องซื้อชนิดที่เป็นรุ่นประหยัดพลังงานเสมอ เป็นต้น
รวมทั้งให้จัดหาพลังงานทดแทน เช่นพลังไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
ซึ่งการประหยัดนั้นไม่ได้ดูที่ค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นการเน้นให้ทุกคนทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการใช้พลังงานและไฟฟ้าอย่างคุ้มค่า
และมีประโยชน์มากที่สุด
แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชนด้วย
นายแพทย์ณรงค์กล่าว
********************************************
5 มีนาคม 2556
|